สนามบินอาภัพ

สนามบินแสนอาภัพ

 

เขียนโดย  ลูกแก้ว

 

สนามบินสุวรรณภูมิ ชื่อนี้เป็นมงคลอย่างยิ่งและเคยเป็นความหวังของประเทศชาติตั้งแต่ก่อนก่อสร้าง อีกทั้งต้องคอยลุ้นให้มันถือกำเนิดและเติบใหญ่สำเร็จเพื่อชื่อเสียงและความยิ่งใหญ่สมกับเนื้อที่ใช้สอยของมันซึ่งกว้างขวางที่สุดในโลก รัฐบาลหลายยุคสมัยละเลยการก่อสร้างมันด้วยสารพัดเหตุผลทางการเมือง แต่หนึ่งเหตุผลหลักคือ เห็นแผ่นดินทองคำนี้ แต่ยอมให้ผลประโยชน์ที่ประเทศคู่แข่งการค้าและสนามบินหยิบยื่นให้เป็นการส่วนตัวบังตาไว้จึงปล่อยให้เวลาล่วงเลยมากกว่า 40 ปี ทั้งที่ตระเตรียมเนื้อที่สร้างสนามบินแล้ว แค่ดำเนินการก่อสร้างให้สำเร็จเท่านั้น อีกทั้งเคยยกเลิกการประมูลงานก่อสร้างมาครั้งหนึ่งในสมัยที่พรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาลด้วยสาเหตุที่เกี่ยวพันกับผลประโยชน์ของต่างชาติที่ประเมินราคาก่อสร้างผิดพลาดไว้จึงเร่งผลักดันให้รัฐบาลยกเลิกการประมูลเองเพื่อเลี่ยงการจ่ายค่าปรับ จากนั้นโครงการสนามบินแห่งใหม่ก็แทบขาดความสนใจไปเลย เมื่อรัฐบาลชุดนายกฯทักษิณได้รับเลือกตั้งจากประชาชนเข้าบริหารประเทศจึงเป็นผลงานแรกที่ผลักดันให้สร้างเสร็จสมบูรณ์และปรากฏโฉมอวดความยิ่งใหญ่แก่สายตาของคนไทยและชาวต่างชาติในการเป็นสนามบินใหญ่ที่สุดในโลก เป็นความภาคภูมิใจของคนไทยที่รอคอยยาวนานยิ่ง รวมทั้งวางแผนงานเพื่อใช้มันหารายได้เข้าประเทศตอบแทนเงินลงทุนที่ใช้เร่งงานก่อสร้างมัน

ผลงานชิ้นสำคัญที่ดำเนินการก่อสร้างสำเร็จในสมัยของรัฐบาลทักษิณและเป็นที่เชิดหน้าชูตาของประเทศไทยยุคไซเบอร์ คือ สนามบินสุวรรณภูมิ มันคือความจริงที่ไม่อาจเปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์ของเรื่องนี้ได้ ขณะที่สนามบินยังตั้งตระหง่านอยู่ในสายตาคนไทย แต่แสลงใจของคณะปฏิวัติที่ล้มล้างรัฐบาลจากการเลือกตั้งโดยไม่มีเหตุอันควร เมื่อยึดอำนาจได้เสร็จสรรพงานสำคัญของคณะปฏิวัติและรัฐบาลใหม่ คือ กำจัดสัญลักษณ์ของรัฐบาลเลือกตั้งให้สิ้นซาก ไม่ว่าจะล้มเลิกหรือเปลี่ยนชื่อโครงการต่างๆที่ริเริ่มมาจากรัฐบาลเดิม ตั้งข้อกล่าวหาสารพัดความผิดกับโครงการพัฒนาประเทศทุกด้าน กำจัดหรือทำลายบริษัทห้างร้านที่เคยให้ความร่วมมือกับโครงการของรัฐบาลเดิม คณะปฏิวัติถือว่าสนามบินสุวรรณภูมิ คือ สัญลักษณ์ความสำเร็จของรัฐบาลเดิม แทนที่จะมองความเป็นจริงว่า มันเป็นสนามบินแห่งชาติของคนไทยและประเทศไทย จึงตั้งใจเข้าไปทำลายเป็นอันดับต้นโดยมีเจตนาแอบแฝงที่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัวและพรรคพวกเป็นหลัก

หากมองย้อนกลับไปทบทวนตั้งแต่วันแรกที่คณะปฏิวัติและรัฐบาลใหม่เข้ายึดอำนาจและบริหารประเทศ จะเห็นการให้ข่าวต่อเนื่องในทางลบต่อสนามบินสุวรรณภูมิโดยผู้มีอำนาจตั้งแต่เรื่องห้องน้ำจนถึงลานจอดเครื่องบิน แล้วยังลามไปถึงบริษัทเอกชนที่ทำมาค้าขายในพื้นที่สนามบินด้วย แต่ข่าวการตรวจสอบมาตรฐานการสร้างลานจอด เช่น งานถมดิน งานโครงสร้าง และอื่นๆ ที่ผลออกมาสูงกว่ามาตรฐานขั้นต่ำของสนามบินสากลกลับไม่มีการนำเสนอให้ประชาชนรับทราบอย่างกว้างขวางเลย โดยเฉพาะข้อบกพร่องเล็กน้อยทางวิศวกรรมอาจเกิดขึ้นได้ เช่น ท่อน้ำในส้วมแตก ไฟดับบางดวง ประตูกระจกแบบหมุนใสไม่น่าพอใจของผู้ใหญ่บางคนที่อยากให้ใช้ประตูผลักเหมือนเมื่อ 40 ปีก่อน และอื่นๆ ถูกนำมาแถลงข่าวใหญ่โตทุกวันเพื่อสร้างภาพความน่ากลัวในสนามบินใหม่ ลานจอดหรือลานวิ่งที่อ้างว่าชำรุดหนัก แต่ไม่เคยมีการให้คำตอบจากผู้เชี่ยวชาญของบริษัทที่สร้างมันว่า รอยร้าวเหล่านั้นตั้งใจสร้างมันหรือต้องเกิดขึ้นหลังการใช้งานช่วงแรกอันเป็นเรื่องทางวิศวกรรมสนามบิน เพราะก่อนหน้าการเปิดสนามบิน ก็เคยมีการเผยแพร่ข่าวร่องรอยแตกมาก่อน ผู้เชี่ยวชาญต่างชาติได้ชี้แจงเหตุผลไปแล้ว แต่การแถลงข่าวหลังการปฏิวัติจะมาจากผู้มีอำนาจที่ด่าประณามสนามบินแห่งนี้ฝ่ายเดียวเพื่อทำลายภาพพจน์ของรัฐบาลเดิมที่สร้างมันสำเร็จโดยมีนักวิชาการบางคนที่ทำงานเคียงข้างและสนองความต้องการของคณะปฏิวัติอย่างเต็มที่ จึงเกิดโครงการซ่อมแซมร่องรอยเหล่านั้นพร้อมกับความคลางแคลงใจว่า คณะปฏิวัติเบิกเงินงบประมาณกลางกรณีเร่งด่วนไปซ่อมแซมรอยเหล่านั้นมีเหตุผลน่าเชื่อถือหรือจำเป็นเพียงใด หรือเป็นเพียงต้องการลบล้างสัญลักษณ์ความสำเร็จของรัฐบาลเดิมเท่านั้น เงินอยู่ในโครงการซ่อมทั้งหมดหรือตกเรี่ยราดไปอยู่ในกระเป๋าของผู้ใด โดยเฉพาะเคยมีแนวการเบิกใช้งบประมาณมาสร้างหรือซ่อมแซมฟุตบาทริมถนนทุกปีทั้งที่มันยังไม่เสียหายแท้จริงหรือเพิ่งทำเสร็จ ก็ต้องถูกรื้อทำใหม่กันทุกปี แต่ต้องการใช้เป็นเหตุเบิกเงินออกไปแบ่งปันกันซึ่งเคยเกิดขึ้นมาแล้ว

ความยิ่งใหญ่ของสนามบินสุวรรณภูมิเป็นความแสลงใจของคณะปฏิวัติที่อยากลบทิ้งไปจากแผ่นดินไทยเพื่อให้คนไทยลืมที่มาของมัน แต่ยังไม่กล้าพอจะทุบทิ้ง จึงต้องเลี่ยงไปทำลายภาพพจน์ของมันโดยไม่คำนึงถึงความเสียหายต่อประเทศชาติ การให้ข่าวด้านลบต่อสนามบินใหม่และข่าวการปฏิวัติทำลายผลประโยชน์ของชาติอย่างมาก สายการบินต่างชาติไม่กล้าแวะมาใช้บริการของสนามบินใหม่ โดยยอมเพิ่มค่าใช้จ่ายไปใช้สนามบินสิงคโปร์หรือมาเลเซียซึ่งปรับปรุงตัวเองอย่างเร่งด่วนเพื่อรองรับผลประโยชน์ที่ควรเป็นของไทย ทั้งที่สนามบินใหม่และใหญ่โตที่สุดในโลกอยู่ในมือของคนไทยแล้ว แต่พวกเขามุ่งทำลายล้างศัตรูและลบชื่อผู้ผลักดันให้เกิดสนามบินแห่งนี้เป็นหลัก เท่ากับช่วยส่งเสริมให้คู่แข่งทางการค้าของไทยได้รับประโยชน์จากการขาดวิสัยทัศน์ในฐานะผู้บริหารผลประโยชน์ของชาติและความเห็นแก่ตัวของคณะปฏิวัติซึ่งมีความหวั่นเกรงและต้องการทำลายศรัทธาของประชาชนที่มีต่อรัฐบาลเดิม

อีกเหตุผลหนึ่งที่คณะปฏิวัติมุ่งมั่นทำลายภาพพจน์สนามบินสุวรรณภูมิซึ่งมีโครงการจะเป็นศูนย์กลางการบินแห่งสำคัญของเอเชียและของโลกโดยอาศัยความยิ่งใหญ่และพื้นที่กว้างขวางที่สุดในโลก คือ การสูญเสียผลประโยชน์ของฝ่ายทหารที่เคยมีหรือเคยได้รับจากสนามบินดอนเมืองที่ต้องปิดตัวลง เช่น ค่าเช่าสถานที่ สัมปทานแท็กซี่ ค่าจ้างงานรักษาความปลอดภัย อภิสิทธิ์ต่างๆ เป็นต้น รัฐบาลมีนโยบายในการบริหารสนามบินใหม่โดยตั้งคณะทำงานใหม่ตามระบบเอกชนและมุ่งทำการค้าเต็มรูปแบบ แทนที่จะยกให้ฝ่ายทหารทำเหมือนในสนามบินดอนเมืองและลากปัญหาระบบราชการติดไปด้วย อีกทั้งเป็นไปตามหลักสากลในการผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการบินที่ควรมีสนามบินแห่งชาติเพียงที่เดียว คณะปฏิวัติจึงมุ่งทำลายชื่อเสียงของสนามบินใหม่เพื่อใช้เป็นเหตุผลในการผลักดันให้สนามบินดอนเมืองคืนชีพ เมื่อรัฐบาลมีมติให้เปิดสนามบินดอนเมืองอีกครั้งโดยอ้างว่าต้องปิดซ่อมสนามบินใหม่ เท่ากับสนองความต้องการของคณะปฏิวัติแล้ว ข่าวด้านลบของสนามบินสุวรรณภูมิจากผู้มีอำนาจลดทอนลงทันตาและเงียบหายไปในที่สุด เมื่อมีการอนุมัติงบประมาณก้อนใหญ่ให้สนามบินดอนเมืองเพื่อเปิดดำเนินการใหม่ ข่าวหนึ่งที่อยู่ในกรอบเล็กมากและพยายามไม่ให้เป็นที่สนใจของคนไทย คือ ภาวะขาดทุนหนักหลังเปิดใช้สนามบินดอนเมืองนับพันล้านบาทในเวลาหนึ่งปี ส่วนสนามบินสุวรรณภูมิมีรายได้ลดลงและไม่เป็นไปตามเป้าหมายทางธุรกิจซึ่งส่วนหนึ่งมาจากการแย่งลูกค้าโดยสนามบินดอนเมือง นอกจากนั้นการเปลี่ยนทีมบริหารให้มาจากฝ่ายทหารทำให้การบริการลูกค้าและการแก้ไขปัญหาทำได้ล่าช้า กอปรกับสายการบินชาติตะวันตกต่อต้านการปฏิวัติด้วยการลดเที่ยวบินมาไทยลง ฝ่ายบริหารใหม่เปลี่ยนเป้าหมายไปหาเหตุกำจัดบริษัทเอกชนที่มาจากการประมูลของรัฐบาลเดิม แทนที่จะตั้งใจปรับปรุงงานบริการให้รวดเร็วและสร้างความสบายใจแก่ลูกค้า มันจึงเป็นการซ้ำเติมชะตากรรมตกต่ำของสนามบินใหม่ ทั้งที่พื้นที่กว้างใหญ่ บุคลากรมีคุณภาพ แต่ขาดวิสัยทัศน์ของผู้นำ สนามบินจึงไม่อาจแสดงศักยภาพแท้จริงของไทยให้เป็นที่ประจักษ์แก่ชาวต่างชาติ แม้แต่จะสู้กับสนามบินของฮ่องกงหรือสิงคโปร์ซึ่งเป็นเกาะเล็กๆยังทำไม่ได้ ทั้งที่ฮ่องกงหรือสิงคโปร์แค่ใช้วิธีบริหารจัดการระบบในสนามบินที่ไม่กว้างขวางให้ไหลลื่นอย่างคล่องตัวเท่านั้น เขาสามารถกอบโกยรายได้เข้าประเทศอย่างมหาศาล แต่คนไทยทำได้เพียงเฝ้ามองเคราะห์กรรมของสนามบินสุวรรณภูมิ

เมื่อการเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญใหม่ผ่านพ้นไปและรัฐบาลจากการเลือกตั้งเข้าบริหารประเทศแล้ว จึงหวังว่าจะมองเห็นศักยภาพแท้จริงของสนามบินสุวรรณภูมิและผลักดันมันให้สร้างรายได้เข้าประเทศอย่างเต็มสมรรถภาพ ช่วยปัดเป่าเมฆหมอกที่ปกคลุมมันนานปีกว่าให้หมดไปโดยเร็ว สนามบินสุวรรณภูมิต้องการทีมบริหารที่ไม่ได้มาจากระบบราชการและทำงานรวดเร็ว การตัดสินใจเด็ดขาด โดยเฉพาะต้องมีความเชื่อมั่นในการบริหารจัดการระบบภายในสนามบินแบบสากล มิใช่คลั่งไคล้ระบบราชการเต็มรูปแบบ การผลักดันและให้ความร่วมมือของรัฐบาลเป็นเรื่องจำเป็นอย่างมาก สิ่งตกค้างหลงเหลือจากงานทำลายล้างของคณะปฏิวัติต้องเร่งตัดสินใจว่าควรแก้ไขอย่างไรเพื่อเปิดใช้สนามบินเต็มศักยภาพของมัน ส่วนสนามบินดอนเมืองก็ควรพิจารณาว่า ศักยภาพแท้จริงของมันควรอยู่ในสถานภาพใดจึงเหมาะสมกับอายุเก่าแก่ ทำเลที่ตั้ง หรือบุคลากร อย่างเช่น การเป็นโรงซ่อมเครื่องบินที่มีพื้นที่ใหญ่และบุคลากรมีความสามารถเพียบในดอนเมือง อาจเหมาะสมและคุ้มค่ากว่าการต้องทุ่มเงินไปปรับปรุงอาคารเก่าหรือลานวิ่งหมดสภาพ เป็นต้น ข้อสังเกตสำหรับการลงทุนในดอนเมืองว่าคุ้มค่าหรือไม่ เวลาหนึ่งปีที่ผ่านมาและผลประกอบการขาดทุนนับพันล้านทั้งที่สายการบินภายในประเทศทั้งหมดอยู่ที่ดอนเมือง ขณะที่สนามบินสุวรรณภูมิที่ใหม่กว่าและมีเที่ยวบินเฉพาะต่างประเทศเป็นหลักมีตัวเลขรายได้ลดลงและกำไรไม่สูงตามเป้าหมายเท่านั้น เราต้องไม่ลืมว่าการบริหารสนามบินตามนโยบายรัฐคือ เป็นกิจการหากำไรทางการค้า เป็นหลัก มิใช่ทำเพื่อสาธารณประโยชน์ วิธีคิดพิจารณาตัดสินการใช้สนามบินจึงควรแตกต่างไปด้วย สนามบินสุวรรณภูมิจะผงาดแสดงศักยภาพให้ชาวโลกได้รู้จักอีกครั้งหรือจะอยู่ในสภาพน่าสมเพชต่อไป ขึ้นอยู่กับแนวคิดของรัฐบาลใหม่ซึ่งมาจากการเลือกตั้งของคนไทย โดยเฉพาะอีกไม่กี่ปีข้างหน้านี้สนามบินใหม่ของเวียดนามจะมีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกแทนไทย จึงมีเวลากอบโกยผลประโยชน์จากชื่อเสียงของสนามบินสุวรรณภูมิก่อนตกอันดับไปเป็นที่สองไม่นานแล้ว

เพื่อเป็นการแสดงความกตัญญูต่อแผ่นดินไทยโดยเฉพาะในช่วงความทุกข์เข็ญของประชาชนนี้ ผู้มากบารมีที่หลบซ่อนตัวในเงาสลัวและไม่ลดละความพยายามกำจัดรัฐบาลจากการเลือกตั้งของรัฐธรรมนูญปีพ.ศ. 2550 ด้วยสารพัดวิธี ควรทำตัวให้เป็นประโยชน์ต่อชาติบ้านเมืองดังคำสอนของท่านที่ให้แก่คนไทยบ่อยครั้งด้วยการปล่อยให้บ้านเมืองเจริญรุ่งเรือง ชาวบ้านอิ่มท้อง ครอบครัวอยู่เย็นเป็นสุข บนผืนแผ่นดินไทย โดยไม่ต้องเป็นเหยื่อการแก่งแย่งอำนาจในการบริหารประเทศซึ่งเป็นของไม่ยั่งยืนและไม่ใช่ของตนตลอดกาล แต่น่าจะปลงใจเสียว่า เป็นของผลัดกันชมได้ อย่ายึดติดกับตัวเพราะเมื่อตาย ท่านมิอาจนำอำนาจเหล่านี้ติดตัวไปด้วย แม้แต่เสื้อผ้าที่สวมใส่ก็ยังสลายไปพร้อมกับร่างกายที่เน่าเปื่อย ขอเพียงท่านหยุดคิด หยุดทำ หยุดหลงในอำนาจ เชื่อว่าจะมีความสุขแท้จริงสมวัยและเวลาที่ถดถอยบนโลกใบนี้ได้ ประชาชนยังมีอนาคตยาวไกล เหตุไฉนจะพาพวกเขาไปลงหลุมศพเดียวกัน แม้ชนะได้เป็นผู้นำอีกครั้ง ก็จะถูกก่นด่าประณามกลายเป็นบันทึกโฉดในประวัติศาสตร์ของชาติ โปรดแผ่เมตตาให้คนไทยได้สุขสบายกันบ้าง ละเว้นความโลภเพื่อตนสักนิด จิตใจจะแจ่มใสแน่นอน

 

**********************

Leave a comment